ผู้‍วินิจ‌ฉัย-1

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 คนอิสราเอลไม่อาจยึดครองคานาอันได้ทั้งหมด ( ยชว.15:13-19 ) อยู่มาเมื่อโยชูวาสิ้นชีวิตแล้ว คนอิสราเอลทูลถามพระยาห์เวห์ว่า “ใครในพวกข้าพระองค์จะขึ้นไปสู้รบกับคนคานาอันก่อน?”
  • 2 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ยูดาห์จะขึ้นไป นี่แน่ะ เราได้มอบแผ่นดินนั้นไว้ในมือเขาแล้ว”
  • 3 ยูดาห์จึงพูดกับสิเมโอนพี่ของตนว่า “จงขึ้นไปกับฉันในเขตแดนที่กำหนดให้ฉัน ให้เราสู้รบกับคนคานาอัน และฉันเองจะไปร่วมรบในเขตแดนที่กำหนดให้พี่ด้วย” สิเมโอนก็ไปกับเขา
  • 4 แล้วยูดาห์ก็ขึ้นไป และพระยาห์เวห์ทรงมอบคนคานาอันและคนเปริสซีไว้ในมือของพวกเขา และพวกเขาก็ประหารคนที่เมืองเบเซก 10,000 คน
  • 5 และเขาทั้งหลายพบอาโดนีเบเซกในเมืองเบเซก และสู้รบกับท่าน พวกเขาได้ประหารคนคานาอันและคนเปริสซี
  • 6 ส่วนอาโดนีเบเซกหนีไป แต่พวกเขาตามจับได้ เขาตัดนิ้วหัวแม่มือ และนิ้วหัวแม่เท้าของท่านออกเสีย
  • 7 อาโดนีเบเซกกล่าวว่า “มีกษัตริย์ 70 องค์ที่มีหัวแม่มือและหัวแม่เท้าด้วน เก็บเศษอาหารใต้โต๊ะของเรา เราทำกับเขาอย่างไร พระเจ้าก็ทรงทำกับเราอย่างนั้น” เขาทั้งหลายก็คุมตัวท่านมาที่เมืองเยรูซาเล็ม และท่านก็สิ้นชีวิตที่นั่น
  • 8 และคนยูดาห์ได้โจมตีเมืองเยรูซาเล็มและยึดเมืองได้ จึงฆ่าฟันชาวเมืองเสียด้วยคมดาบ และเอาไฟเผาเมืองเสีย
  • 9 ภายหลังคนยูดาห์ได้ลงไปสู้รบกับคนคานาอัน ผู้อยู่ในแดนเทือกเขา ในเนเกบ และในที่ราบ
  • 10 และยูดาห์ได้ไปสู้รบกับคนคานาอันผู้อยู่ในเฮโบรน (เมืองเฮโบรนนั้นแต่ก่อนมีชื่อว่า คีริยาทอารบา) และพวกเขาได้ประหารเชชัย อาหิมาน และทัลมัย
  • 11 เขายกจากที่นั่นไปสู้รบกับชาวเมืองเดบีร์ (เมืองเดบีร์นั้นแต่ก่อนมีชื่อว่า คีริยาทเสเฟอร์)
  • 12 และคาเลบกล่าวว่า “ผู้ที่ตีเมืองคีริยาทเสเฟอร์และยึดได้ เราจะยกอัคสาห์บุตรสาวของเราให้เป็นภรรยา”
  • 13 โอทนีเอลบุตรเคนัส น้องชายของคาเลบตีเมืองนั้นได้ คาเลบจึงยกอัคสาห์บุตรสาวของตนให้เป็นภรรยา
  • 14 อยู่มาเมื่อแต่งงานกันแล้ว นางจึงชวนสามีให้ขอที่นาจากบิดาของนาง นางก็ลงจากหลังลา คาเลบจึงถามนางว่า “ลูกมาด้วยเรื่องอะไร?”
  • 15 นางจึงตอบท่านว่า “ขอของขวัญให้ลูกสักอย่างหนึ่งเถิด เพราะพ่อให้ดินแดนเนเกบที่แห้งแล้งแก่ลูกแล้ว ลูกก็ขอน้ำพุด้วย” และคาเลบก็ยกน้ำพุบนและน้ำพุล่างแก่นาง
  • 16 คนเคไนต์ผู้เป็นเชื้อสายพ่อตาของโมเสสได้ขึ้นไปจากเมืองต้นอินทผลัม พร้อมกับคนยูดาห์มาถึงถิ่นทุรกันดารยูดาห์ซึ่งอยู่ในเนเกบใกล้เมืองอาราด และเขาก็ไปอยู่กับชนชาตินั้น
  • 17 และยูดาห์ก็ไปกับสิเมโอนพี่ของเขา พวกเขาประหารคนคานาอันผู้อยู่ในเมืองเศฟัท และทำลายเมืองนั้นเสียสิ้น เขาจึงเรียกชื่อเมืองนั้นว่า โฮรมาห์แปลว่า การทำลาย
  • 18 ยูดาห์ได้ยึดเมืองกาซา เมืองอัชเคโลน และเมืองเอโครนพร้อมทั้งอาณาเขตของเมืองเหล่านั้นไว้ด้วย
  • 19 และพระยาห์เวห์สถิตกับยูดาห์ เขาจึงยึดครองแดนเทือกเขา แต่ไม่อาจขับไล่ผู้ที่อยู่ในหุบเขา เพราะพวกนั้นมีรถรบเหล็ก
  • 20 เมืองเฮโบรนนั้นเขายกให้คาเลบดังที่โมเสสได้กล่าวไว้ คาเลบจึงขับไล่บุตรชายทั้งสามคนของอานาคออกไปเสียยชว.15:13-14
  • 21 แต่คนเบนยามินไม่ได้ขับไล่คนเยบุสผู้อยู่ในเยรูซาเล็มออกไป ดังนั้นคนเยบุสจึงอาศัยอยู่กับคนเบนยามินในเมืองเยรูซาเล็มจนถึงทุกวันนี้ยชว.15:63;2 ซมอ.5:6;1 พศด.11:4
  • 22 พงศ์พันธุ์ของโยเซฟได้ขึ้นไปโจมตีเมืองเบธเอลด้วย และพระยาห์เวห์สถิตกับพวกเขา
  • 23 พงศ์พันธุ์โยเซฟได้ใช้คนไปสอดแนมเมืองเบธเอล (แต่ก่อนเมืองนี้ชื่อ ลูส)
  • 24 และพวกผู้สอดแนมเห็นชายคนหนึ่งเดินออกมาจากเมือง จึงพูดกับเขาว่า “จงชี้ทางเข้าเมืองนี้ให้แก่เรา และเราจะปรานีเจ้า”
  • 25 ชายคนนั้นก็ชี้ทางเข้าเมืองให้และพวกเขาทำลายเมืองนั้นเสียด้วยคมดาบ แต่ปล่อยชายนั้นและครอบครัวทั้งสิ้นของเขาไป
  • 26 ชายคนนั้นก็เข้าไปในแผ่นดินของคนฮิตไทต์ และสร้างเมืองขึ้นเมืองหนึ่ง เรียกชื่อว่าเมืองลูส ซึ่งเป็นชื่ออยู่จนทุกวันนี้
  • 27 มนัสเสห์ไม่ได้ขับไล่ชาวเมืองเบธชาน หรือชาวเมืองทาอานาค หรือชาวเมืองโดร์ หรือชาวเมืองอิบเลอัม หรือชาวเมืองเมกิดโด และไม่ได้ขับไล่คนในหมู่บ้านต่างๆ ของเมืองเหล่านั้นออกไป ดังนั้นคนคานาอันจึงยังอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น
  • 28 อยู่มาเมื่อคนอิสราเอลเข้มแข็งขึ้น ก็บังคับคนคานาอันให้ทำงานหนักเยี่ยงทาส แต่ไม่ได้ขับไล่เขาออกไปอย่างสิ้นเชิงยชว.17:11-13
  • 29 และเอฟราอิมไม่ได้ขับไล่คนคานาอัน ผู้อาศัยอยู่ในเมืองเกเซอร์ออกไป ดังนั้นคนคานาอันจึงยังอาศัยอยู่ในเมืองเกเซอร์ท่ามกลางเขาฉบับกรีก เพิ่มข้อความว่า แต่ถูกเกณฑ์ให้ทำงานหนักเยี่ยงทาสยชว.16:10
  • 30 เศบูลุนไม่ได้ขับไล่ชาวเมืองคิทโรนและชาวเมืองนาหะโลล ดังนั้นคนคานาอันจึงอาศัยอยู่ท่ามกลางเขาและถูกเกณฑ์ให้ทำงานหนักเยี่ยงทาส
  • 31 อาเชอร์ไม่ได้ขับไล่ชาวเมืองอัคโค หรือชาวเมืองไซดอน หรือชาวเมืองอัคลาบ หรือชาวเมืองอัคซีบ หรือชาวเมืองเฮลบาห์ หรือชาวเมืองอาฟิกหรือชาวเมืองเรโหบ
  • 32 ฉะนั้นคนเผ่าอาเชอร์จึงอาศัยอยู่ท่ามกลางคนคานาอันชาวแผ่นดินนั้น เพราะว่าเขาไม่ได้ขับไล่คนคานาอันออกไป
  • 33 นัฟทาลีไม่ได้ขับไล่ชาวเมืองเบธเชเมช และชาวเมืองเบธานาท แต่ได้อาศัยอยู่ท่ามกลางคนคานาอันชาวแผ่นดินนั้น อย่างไรก็ดีชาวเมืองเบธเชเมชและชาวเมืองเบธานาทก็ถูกเกณฑ์ให้ทำงานหนักเยี่ยงทาสให้พวกเขา
  • 34 คนอาโมไรต์ได้บีบคนดานเข้าไปในแดนเทือกเขา และไม่ยอมให้ลงมายังหุบเขา
  • 35 คนอาโมไรต์ยังตั้งมั่นอยู่ที่ภูเขาเฮเรสในเมืองอัยยาโลน และในเมืองชาอัลบิม แต่อำนาจของพงศ์พันธุ์โยเซฟเหนือกว่า ดังนั้นคนอาโมไรต์จึงถูกเกณฑ์ให้ทำงานหนักเยี่ยงทาส
  • 36 พรมแดนของคนอาโมไรต์ เริ่มตั้งแต่ทางขึ้นเนินอัครับบิมคือตั้งแต่เมืองเส-ลาเรื่อยขึ้นไป
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页