1
พระสิริของพระเจ้าเต็มพระวิหาร ภายหลังท่านนำข้าพเจ้ามายังประตู คือประตูที่หันหน้าไปทิศตะวันออก2
และ ดูเถิด พระสิริของพระเจ้าแห่งอิสราเอลมาจากทิศตะวันออก อสค. 10:3-4, 18-19; 11:22-23 และพระสุรเสียงของพระองค์ก็เหมือนเสียงน้ำมากหลาย และพิภพก็รุ่งโรจน์ด้วยพระสิริของพระองค์3
และนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นก็เหมือนกับนิมิตซึ่ง ข้าพเจ้าเห็นเมื่อพระองค์เสด็จมาทำลายเมืองนั้น และเหมือนกับนิมิตซึ่งข้าพเจ้าได้เห็นที่ริมแม่น้ำเคบาร์ และข้าพเจ้าก็ซบหน้าของข้าพเจ้าลงถึงดิน4
เมื่อพระสิริของพระเจ้าเข้าไปในพระนิเวศ ทางประตูที่หันไปทางทิศตะวันออก5
พระวิญญาณก็ยกข้าพเจ้าขึ้น และนำข้าพเจ้า มาที่ลานชั้นใน และดูเถิด พระสิริของพระเจ้าก็เต็มพระวิหาร6
ขณะที่ชายคนนั้นยังยืนอยู่ที่ข้างข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ยินพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าดังออกมาจากพระวิหาร7
และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย บัลลังก์ของเราและสถานที่วางเท้าของเราอยู่ที่นี่ เป็นที่ที่เราจะอยู่ท่ามกลางชนชาติอิสราเอลเป็นนิตย์ และพงศ์พันธุ์อิสราเอลจะไม่กระทำให้นามบริสุทธิ์ ของเราเป็นมลทิน โดยตัวของเขาทั้งหลายเองหรือกษัตริย์ของเขาทั้งหลาย ด้วยการเล่นชู้ของเขาทั้งหลายและด้วยศพของ พระเจ้าแผ่นดินของเขาทั้งหลายเมื่อสิ้นพระชนม์8
โดยการวางธรณีประตูของเขาทั้งหลายไว้ ข้างธรณีประตูของเรา และโดยตั้งเสาประตูของเขาทั้งหลายไว้ข้างเสา ประตูของเรา มีเพียงผนังกั้นไว้ระหว่างเรากับเขาทั้งหลายเท่านั้น เขาได้กระทำนามบริสุทธิ์ของเราให้เป็นมลทิน ด้วยการลามกของเขาซึ่งเขาทั้งหลายได้กระทำ ดังนั้น เราจึงเผาผลาญเขาเสียด้วยความกริ้วของเรา9
บัดนี้ให้เขาทิ้งการเล่นชู้ทั้งหลายของ เขาและศพของกษัตริย์ทั้งหลายของเขาให้ห่างไกลจากเรา และเราจะอยู่ท่ามกลางเขาทั้งหลายเป็นนิตย์10
ระเบียบของพระวิหารและแท่นบูชา “เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงบรรยายแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลให้ทราบถึง พระวิหารและสัณฐานและแผนผังของพระวิหารนั้น เพื่อว่าเขาจะได้ละอายในเรื่องความบาปชั่วของเขา11
และถ้าเขาละอายในสิ่งทั้งหลายที่เขากระทำมาแล้ว จงสำแดงภาพแผนผัง ทางออกทางเข้า และลักษณะทั้งสิ้นของพระวิหารนั้น และจงให้เขาทราบถึงกฎเกณฑ์และกฎทั้งสิ้นของพระวิหาร จงเขียนลงไว้ต่อหน้าต่อตาของเขา เพื่อเขาจะได้รักษากฎและกฎเกณฑ์ทั้งสิ้นของพระวิหาร และกระทำตาม12
ต่อไปนี้เป็นกฎของพระวิหาร คือบริเวณโดยรอบที่อยู่บนยอดภูเขาจะเป็นที่บริสุทธิ์ที่สุด ดูเถิด นี่เป็นกฎของพระวิหาร13
ต่อไปนี้เป็นขนาดของแท่นบูชาวัดเป็นศอก (ศอกหนึ่งคือความยาวหนึ่งศอกกับหนึ่งคืบ) ตอนฐานสูงหนึ่งศอก และกว้างหนึ่งศอก ที่ขอบมีริมคืบหนึ่ง และความสูงของแท่นบูชาเป็นดังนี้14
จากตอนฐานที่อยู่บนดินมาถึงข้างล่างสูงสองศอก กว้างหนึ่งศอก จากขั้นเล็กไปถึงขั้นใหญ่สูงสี่ศอก กว้างหนึ่งศอก15
และเตาของแท่นนั้นสี่ศอก และจากเตาแท่นมีเชิงงอนยื่นขึ้นไปสูงศอกหนึ่งสี่เชิง16
เตาแท่นนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสยาวสิบสองศอก กว้าง สิบสองศอก17
ขั้นข้างเตาก็สี่เหลี่ยมจัตุรัสเหมือนกัน ยาวสิบสี่ศอก กว้างสิบสี่ศอก ยกริมรอบกว้างครึ่งศอก ฐานกว้างศอกหนึ่งโดยรอบ บันไดแท่นบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก” อพย. 27:1-2;2 พศด. 4:118
และท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ต่อไปนี้เป็นกฎเกณฑ์ของแท่นบูชา ในวันที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อจะถวายเครื่องเผาบูชา และเพื่อจะซัดด้วยเลือด19
ท่านจงมอบวัวหนุ่มตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่ บาปแก่ปุโรหิตคนเลวีครอบครัวศาโดก ผู้ที่เข้ามาใกล้เพื่อปรนนิบัติเรา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ20
เจ้าจงเอาเลือดวัวนั้นบ้างใส่ไว้ที่เชิงงอนทั้งสี่ของแท่น และมุมทั้งสี่ของขั้นข้างเตา และที่ยกริมโดยรอบ ทำดังนี้แหละท่านจะได้ชำระแท่นและทำการลบ มลทินของแท่นนั้นไว้21
ท่านจงเอาวัวผู้ซึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และท่านจงเผามันเสียในที่ที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นที่ของพระวิหารภายนอกสถานนมัสการ22
และในวันที่สองท่านจงถวาย แพะตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และชำระแท่นบูชา อย่างที่ชำระด้วยวัวผู้23
เมื่อท่านได้ชำระแท่นเสร็จแล้ว ท่านจงถวายวัวหนุ่มปราศจากตำหนิ และแกะผู้ที่ปราศจากตำหนิจากฝูง24
ท่านจงนำมาถวายพระเจ้า และ ปุโรหิตจะเอาเกลือพรมลงบนนั้น และถวายเป็นเครื่องเผาบูชาแด่พระเจ้า25
ท่านจงถวายแพะตัวหนึ่งเป็นเครื่อง บูชาไถ่บาปทุกวันจนครบเจ็ดวัน และจงถวายวัวหนุ่มและแกะผู้ที่ปราศจากตำหนิจากฝูงด้วย26
เขาทั้งหลายจะต้องทำการลบมลทินแท่นบูชาอยู่ เจ็ดวันจึงจะชำระเสร็จ และถวายให้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์27
และเมื่อเขากระทำครบตามกำหนดเหล่านี้แล้ว ตั้งแต่วันที่แปดเป็นต้นไป ปุโรหิตจะต้องถวายเครื่องเผาบูชา ของท่านและเครื่องศานติบูชาของท่านที่บนแท่นนั้น และเราจะโปรดปรานเจ้าทั้งหลาย พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ อพย. 29:35-37