1 พงศ์‍กษัตริย์-20

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 อาหับทรงรบชนะคนซีเรีย เบนฮาดัดกษัตริย์ซีเรียได้ประชุมกองทัพทั้งปวงของท่าน มีกษัตริย์สามสิบสององค์ขึ้นกับท่าน ทั้งม้าและรถรบ และท่านก็ขึ้นไปล้อมสะมาเรีย สู้รบกับเมืองนั้น
  • 2 และท่านได้ส่ง ผู้สื่อสารเข้าไปในเมืองหาอาหับกษัตริย์อิสราเอล กล่าวแก่ท่านว่า “เบนฮาดัดว่าดังนี้ว่า
  • 3 ‘เงินและทองคำของท่านเป็นของเรา บรรดาภรรยาและเด็กๆ ที่ดีที่สุดของท่านก็เป็นของเราด้วย’ ”
  • 4 และพระราชาแห่งอิสราเอลทรงตอบไปว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพเจ้า ดังที่ท่านว่ามานั่นแหละข้าพเจ้าเป็นของท่าน ทั้งที่ข้าพเจ้ามีอยู่นั้นด้วย”
  • 5 บรรดาผู้สื่อสารได้กลับมาอีกกล่าวว่า “เบนฮาดัดกล่าวดังนี้ว่า ‘ข้าพเจ้าส่งข่าวมายังท่านว่า “จงส่งเงินและทองคำของท่านภรรยา และเด็กของท่านไปให้ข้าพเจ้า”
  • 6 แต่ข้าพเจ้าจะส่งข้าราชการ ของข้าพเจ้าไปหาท่านพรุ่งนี้ประมาณเวลานี้ เขาทั้งหลายจะค้นวังของท่าน ทั้งบ้านเรือนข้าราชการของท่าน สิ่งใดที่เป็นที่ชอบตาของท่านเขาจะหยิบเอาไป’ ”
  • 7 แล้วพระราชาแห่งอิสราเอลก็เรียกประชุมพวกผู้ใหญ่ของแผ่นดินตรัสว่า “ขอตรองดูเถิด ดูว่าชายผู้นี้หาช่องก่อความลำบาก เพราะเขาให้คนมารับเมียและลูกของฉัน ทั้งเงินและทองคำของฉันและฉันก็มิได้ปฏิเสธเขา”
  • 8 บรรดาผู้ใหญ่และประชาชนทั้งสิ้นก็ทูลพระองค์ว่า “ขออย่าทรงฟังหรือทรงยินยอมพ่ะย่ะค่ะ”
  • 9 พระองค์จึงรับสั่งแก่ผู้สื่อสารของเบนฮาดัดว่า “จงไปทูลพระราชาเจ้านายของข้าพเจ้าว่า ‘บรรดาสิ่งที่ท่านบังอาจเอาจากผู้รับใช้ของ ท่านในครั้งแรกนั้น ข้าพเจ้าจะกระทำตาม แต่สิ่งนี้ข้าพเจ้าปฏิบัติตามไม่ได้’ ” และผู้สื่อสารก็จากไปและกลับมารายงาน
  • 10 เบนฮาดัดส่งข่าวกลับมาถึงอีกว่า “ถ้าผงคลีแห่งสะมาเรียจะพอแก่คนที่ติดตาม ข้าพเจ้ามาสักคนละหยิบมือหนึ่ง ก็ขอให้พระทั้งหลายลงโทษข้าพเจ้าและยิ่งหนักกว่า”
  • 11 และพระราชาแห่งอิสราเอลทรงตอบไปว่า “ขอทูลท่านว่า ‘ขอท่านผู้ที่สวมเกราะอย่าอวดอ้าง อย่างผู้ที่ถอดเกราะแล้วเลย’ ”
  • 12 เมื่อเบนฮาดัดทราบข่าวนี้ ขณะที่ดื่มอยู่กับบรรดากษัตริย์ทั้งหลายที่ในทับอาศัย ท่านก็สั่งข้าราชการของท่านว่า “จงเข้าประจำที่” และเขาทั้งหลายก็เข้าประจำที่เพื่อต่อสู้กับเมืองนั้น
  • 13 ดูเถิด ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง เข้ามาใกล้อาหับกษัตริย์แห่งอิสราเอลทูลว่า “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าเห็นกองทัพใหญ่นี้หรือ ดูเถิด เราจะมอบไว้ในมือของเจ้าในวันนี้ เจ้าจะได้รู้ว่าเราคือพระเจ้า”
  • 14 และอาหับตรัสว่า “ทรงใช้ใครทำ” เขาทูลว่า “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ด้วยมือของมหาดเล็กของเจ้านายประจำจังหวัดทั้งหลาย” แล้วพระองค์ตรัสว่า “ใครจะเริ่มรบ” เขาทูลตอบว่า “ฝ่าพระบาทพ่ะย่ะค่ะ”
  • 15 พระองค์จึงทรงจัดมหาดเล็กของ เจ้านายประจำจังหวัดเหล่านั้น ซึ่งมีสองร้อยสามสิบสองคนด้วยกัน และภายหลังทรงจัดพลทั้งหมด คือคนอิสราเอลรวมพลเจ็ดพันคน
  • 16 เขาทั้งหลายยกออกไปในเวลาเที่ยงวัน ฝ่ายเบนฮาดัดกำลังดื่มเมาอยู่ในทับอาศัย ทั้งท่านและกษัตริย์อีกสามสิบสององค์ที่ช่วยท่าน
  • 17 พวกมหาดเล็กของเจ้านายประจำจังหวัดได้ยกออกไปก่อน เบนฮาดัดก็ส่งออกไปเขาทั้งหลายรายงานท่านว่า “มีคนยกออกมาจากสะมาเรีย”
  • 18 ท่านจึงว่า “ถ้าเขาออกมาด้วยศานติจงจับเขามาเป็นๆ หรือถ้าเขาออกมาทำศึกจงจับเขามาเป็นๆ”
  • 19 คนเหล่านี้จึงออกไปจาก เมืองคือพวกมหาดเล็กของเจ้านายประจำจังหวัด และกองทัพซึ่งติดตามคนเหล่านี้
  • 20 และต่างก็ฆ่าคู่รบของตน คนซีเรียหนีและคนอิสราเอลไล่ติดตามเขาไป แต่เบนฮาดัดกษัตริย์แห่งซีเรียทรงม้าหนีไปกับทหารม้า
  • 21 กษัตริย์แห่งอิสราเอลก็ออกไปโจมตีม้าและรถรบ และประหารชนซีเรียเสียอย่างใหญ่โต
  • 22 แล้วผู้เผยพระวจนะผู้นั้นได้เข้ามา ใกล้พระราชาแห่งอิสราเอลทูลพระองค์ว่า “มาเถิด ขอเสริมกำลังของพระองค์ และตรึกตรองดูว่า พระองค์จะทรงกระทำประการใด เพราะแล้งที่จะถึงนี้พระราชา แห่งซีเรียจะยกกองทัพมาสู้กับพระองค์อีก”
  • 23 ข้าราชการของพระราชาแห่งซีเรียทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าทั้งหลายของเขาเป็นพระเจ้าแห่งภูเขา เขาทั้งหลายจึงแข็งกว่าเรา แต่ขอให้เราสู้รบกับเขาในที่ราบ แล้วเราจะต้องแข็งกว่าเขาแน่นอนทีเดียว
  • 24 ขอกระทำอย่างนี้ ขอปลดกษัตริย์เสียทุกองค์จากตำแหน่งและตั้งนายทหารขึ้นแทน
  • 25 และเกณฑ์กองทัพเข้าแทนส่วนที่ล้มตายไปในคราวก่อน ม้าแทนม้า รถรบแทนรถรบ แล้วเราทั้งหลายจะสู้รบกับเขาในที่ราบ เราจะต้องแข็งกว่าเขาแน่นอนทีเดียว” และท่านก็เชื่อฟังเสียงของเขาทั้งหลายและกระทำตาม
  • 26 และอยู่มาพอขึ้นแล้งเบนฮาดัดก็เกณฑ์ชนซีเรีย ยกขึ้นไปถึงเมืองอาเฟกเพื่อสู้รบกับอิสราเอล
  • 27 และประชาชนอิสราเอลก็ถูกเกณฑ์ รับเสบียงอาหาร และยกออกไปต่อสู้กับเขา ประชาชนอิสราเอลตั้งค่ายตรง หน้าเขาเหมือนอย่างแพะสองฝูงเล็กๆ แต่คนซีเรียเต็มท้องทุ่งไปหมด
  • 28 และคนของพระเจ้าคนหนึ่งได้เข้าไปใกล้ และทูลพระราชาแห่งอิสราเอลว่า “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ‘เพราะคนซีเรียได้กล่าวว่า “พระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้าแห่งภูเขา พระองค์มิได้เป็นพระเจ้าแห่งที่ลุ่ม” เพราะฉะนั้นเราจะมอบประชาชนหมู่ใหญ่นี้ไว้ในมือของเจ้า และเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือพระเจ้า’ ”
  • 29 แล้วเขาก็ตั้งค่ายตรงข้ามกันอยู่เจ็ด วันแล้วในวันที่เจ็ดก็ปะทะกัน ประชาชนอิสราเอลก็ฆ่าคนซีเรีย ซึ่งเป็นทหารราบเสียหนึ่งแสนคนในวันเดียว
  • 30 เหลือนอกนั้นก็หนีเข้าเมืองอาเฟก และกำแพงเมืองล้มทับคนที่เหลือนอก นั้นเสียสองหมื่นเจ็ดพันคนเบนฮาดัดก็หนีไปด้วย และเข้าไปในห้องชั้นในที่ในเมือง
  • 31 และข้าราชการของท่านมาทูลว่า “ดูเถิด เราทราบว่าพระราชาแห่งอิสราเอล เป็นพระราชาที่ทรงเมตตา ขอให้เราเอาผ้ากระสอบคาดเอว และเอาเชือกพันศีรษะของเรา และออกไปหากษัตริย์แห่งอิสราเอล ชะรอยท่านจะไว้ชีวิตของฝ่าพระบาท”
  • 32 เพราะฉะนั้นเขาจึงเอาผ้ากระสอบคาด เอวและเอาเชือกพันศีรษะ และเขาไปเฝ้ากษัตริย์แห่งอิสราเอลทูลว่า “เบนฮาดัดผู้รับใช้ของพระองค์สั่งมาว่า ‘ได้โปรดเถิด ขอให้ข้าพเจ้ารอดชีวิตอยู่’ ” และพระองค์ตรัสว่า “ท่านยังมีชีวิตหรือ ท่านเป็นน้องของเรา”
  • 33 ฝ่ายคนเหล่านั้นกำลังหาช่องอยู่แล้ว เขาทั้งหลายก็รีบตอบโดยเร็วว่า “พระเจ้าข้า เบนฮาดัดอนุชาของพระองค์” แล้วพระองค์ตรัสว่า “ไปเถอะ และนำท่านมา” แล้วเบนฮาดัดก็ออกมาหาพระองค์ แล้วพระองค์ก็ให้ท่านขึ้นไปบนรถรบ
  • 34 และเบนฮาดัดทูลว่า “หัวเมืองซึ่งบิดาของข้าพเจ้ายึดเอาไป จากราชบิดาของท่านนั้น ข้าพเจ้าขอคืนให้พระองค์ พระองค์จะสร้างถนนหนทางของพระองค์ ในเมืองดามัสกัสก็ได้ อย่างที่บิดาข้าพเจ้าทำไว้ในสะมาเรีย” แล้วอาหับตรัสว่า “เราจะยอมให้ท่านไปตามข้อตกลงนี้” พระองค์จึงทำพันธสัญญากับท่าน และปล่อยท่านไป
  • 35 มีชายคนหนึ่งพวกผู้เผยพระวจนะพูดกับเพื่อนของตน ตามพระบัญชาของพระเจ้าว่า “ได้โปรดเถอะ ขอตีฉันที” แต่ชายคนนั้นก็ปฏิเสธไม่ยอมตีท่าน
  • 36 แล้วท่านจึงพูดกับเขาว่า “เพราะท่านไม่ฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า ดูเถิด พอท่านออกไปจากข้าพเจ้า สิงห์ตัวหนึ่งจะสังหารท่าน” พอเขาจากท่านไป สิงห์ตัวหนึ่งก็มาพบเขาและสังหารเขาเสีย
  • 37 แล้วท่านไปพบชายอีกคนหนึ่ง และท่านว่า “ได้โปรดเถอะขอตีฉันที” ชายคนนั้นได้ตีท่านและทำให้ท่านฟกช้ำ
  • 38 ผู้เผยพระวจนะผู้นั้นจึงจากไป และไปคอยพบพระราชาอยู่ที่หนทาง เอาผ้าพันตาปลอมตัวเสีย
  • 39 พอพระราชาทรงผ่านไป ท่านก็ร้องทูลพระราชาว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเข้าไปในกลางศึก และดูเถิด ทหารคนหนึ่งหันมา และนำชายคนหนึ่งมาให้ข้าพระบาท บอกว่า ‘จงระวังชายคนนี้ไว้นะ ถ้าเขาหลุดไปได้โดยเหตุใดๆ ชีวิตของท่านจะต้องแทนชีวิตของเขา หรือมิฉะนั้นท่านจะต้องเสียเงินตะลันต์หนึ่ง’
  • 40 และเมื่อข้าพระบาทติดธุระอยู่ที่นี่ที่นั่น เขาก็หายไป” พระราชาแห่งอิสราเอลตรัสกับเขาว่า “โทษของเจ้าต้องเป็นอย่างนั้นแหละ เพราะเจ้าเองได้ตัดสินแล้ว”
  • 41 แล้วท่านก็รีบแก้ผ้าพันออกเสียจากตาของตน และพระราชาแห่งอิสราเอลก็จำท่านได้ว่าเป็น ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง
  • 42 และท่านจึงทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ‘เพราะเจ้าได้ปล่อยชายคนที่อยู่ในมือของเจ้า ผู้ซึ่งเราได้กำหนดให้ทำลายนั้น ชีวิตของเจ้าจะต้องแทนชีวิตของเขา และชนชาติของเจ้าแทนชนชาติของเขา’ ”
  • 43 และพระราชาแห่งอิสราเอลก็เสด็จ เข้าไปในพระราชวังด้วยอารมณ์ขุ่นมัว และกลัดกลุ้มยิ่งนัก และเสด็จมาสะมาเรีย
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页